วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

...สถานะทางการสมรสของพระเยซู

คำอ้างของแดน บราวน์ : พระเยซูซึ่งเป็นชาวยิวจำเป็นต้องสมรส เนื่องจากสภาพสังคมยุคนั้นแทบจะห้ามชายยิวครองตัวเป็นโสด พระเยซูซึ่งเป็นเชื้อสายของราชวงศ์เดวิด จึงได้สมรสกับแมรี แม็กดาลีนซึ่งเป็นเชื้อสายของราชวงศ์เบนจามิน และธิดาของทั้งสองพระองค์ต่างสืบสายพระโลหิตต่อมาในประเทศฝรั่งเศสนับแต่นั้น คำอ้างของนักวิจารณ์ : โจเซฟัส นักประวัติศาสตร์ชาวยิวซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 1 ยืนยันว่าชาวยิวล้วนแต่มีคู่ครองทั้งสิ้น เว้นแต่ผู้ทรงศีลอย่างพระเยซูเท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องมีคู่สมรส และผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องกันว่าตำนานเรื่องแมรี แม็กดาลีนนั้น เกิดขึ้นในสมัยยุคกลางนี่เองใน "ดาวินชี โคด" แดน บราวน์ได้อ้างถึงคัมภีร์ของฟิลลิป ซึ่งเป็นประจักษ์พยานในการสมรสของพระเยซู แต่ข้อความที่ระบุใจความสำคัญดังกล่าวกลับมีรอยขาดวิ่นอยู่มากทีเดียว" แมรี แม็กดาลีน.......ต่อเธอมากกว่า.......สาวกคนอื่นๆ .......จูบเธอ.......บน......."พระเยซูจูบเธอที่ริมฝีปาก? บนแก้มหรือฝ่ามือ? อย่างไรก็ดีผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าตามแนวคิดหลักของคัมภีร์นอสติกแล้ว ความสัมพันธ์ครั้งนี้น่าจะเป็นแบบพลาโตนิก(platonic) หรือการแสดงออกซึ่งความรักที่ปราศจากอารมณ์เพศ หรือการแสดงออกทางจิตวิญญาณ(spiritual) มากกว่าเจมส์ เอ็ม. โรบินสัน ผู้เชี่ยวชาญจากบัณฑิตวิทยาลัย Claremont Graduate University แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ชี้ว่าการที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจต่อเรื่องแมรี แม็กดาลีนในปัจจุบันนั้น "ก็เพราะต้องการขุดคุ้ยเรื่องราวในชีวิตทางเพศของทั้งสอง มากกว่าจะสนใจตัวตนและที่มาของแมรี แม็กดาลีนและพระเยซูอย่างแท้จริง"

จาก http://entertain.teenee.com/star/2619.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก