วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

...เกี่ยวกับพันธสัญญาใหม่

คำอ้างของแดน บราวน์ : มีคัมภีร์กว่า 80 เล่มที่ได้รับการยอมรับให้เป็นพันธสัญญาใหม่ (New Testament) แต่จักรพรรดิคอนสแตนตินเลือกออกมาแค่ 4 เล่ม โดยกีดกันคัมภีร์ที่กล่าวถึงพระเยซูอย่างมนุษย์ธรรมดา และส่งเสริมคัมภีร์เล่มที่กล่าวถึงพระเยซูราวกับเป็นเทพเจ้า หลังจากนั้นคัมภีร์เล่มที่เหลือก็กลายเป็นสิ่งผิดกฏหมาย และถูกรวบรวมเพื่อทำการเผาทำลายในที่สุด ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ลิขิตเดดซี (Dead Sea Scrolls) และลิขิตค็อปติกแห่งเมืองนัก ฮัมมาดี (Nag Hammadi manuscript) คือบันทึกทางศริสตศาสนาแรกเริ่มที่แท้จริง ไม่ใช้คัมภีร์ทั้ง 4 แต่อย่างใดคำอ้างของนักวิจารณ์ : ชาวคริสต์ในช่วงศตวรรษแรกต่างให้ความศรัทธาต่อคัมภีร์ทั้ง 4 เล่มของนักบุญมัทธิว มะระโก ลูกา และยอห์น ส่วนจดหมายของนักบุญพอลได้รับความศรัทธาต่อมาในศตวรรษที่ 2 ส่วนคัมภีร์อีก 27 เล่มนั้นไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายจนกระทั่งสิ้นสุดยุคสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ซึ่งตัวจักรพรรดิคอนสแตนตินเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเหล่านั้นเลยโดยงานที่นอกเหนือจากคัมภีร์ทั้ง 4 ก็ยังได้รับการยอมรับในฐานะเป็นคัมภีร์ทางศาสนาอยู่ แม้มันจะขาดคุณสมบัติในการบรรยายถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญของการเป็นพันธสัญญาใหม่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในฐานะที่ระลึกความทรงจำและศรัทธาจากบรรดาสาวกของพระเยซูและอนุชนรุ่นต่อๆ มาเหตุผลหลักที่คัมภีร์เหล่านั้นไม่ได้ถูกรับเลือก ก็เพราะการที่คัมภีร์ไม่อธิบายถึงพระเยซูในฐานะของมนุษย์ปุถุชนนั้นเอง ซึ่งตรงข้ามกับที่แดน บราวน์บรรยายไว้ในหนังสืออย่างสิ้นเชิงเช่นในบันทึกของคัมภีร์นอสติก (Gnostic gospels) ซึ่งตั้งใจที่จะบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับญาณหยั่งรู้อันลึกลับของพระเยซู โดยกล่าวว่าผู้บรรลุแล้วย่อมสามารถหลุดพ้นจากโลกแห่งวัตถุ (material world) ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ต่ำทราม รวมทั้งไม่ยอมรับแนวคิดเรื่องพระเจ้าสร้างโลกของศาสนายิวและพันธสัญญาเก่าอีกด้วยส่วนข้อหาในการเผาทำลายคัมภีร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งนอกรีต (heretical) นั้น ผู้เชี่ยวชาญอย่างเออร์แมนแย้งว่ามีหลักฐานที่ยืนยันถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่น้อยมาก และชี้ว่าการที่คัมภีร์ที่ไม่ได้รับการยอมรับค่อยๆ สูญหายไปตามกาลเวลาก็เพราะว่าผู้คนเลิกใช้มันนั่นเอง และไม่มีใครอยากจะนำมาทำสำเนาใหม่ด้วยการคัดลอกด้วยมือ ในยุคที่การพิมพ์ยังไม่ถือกำเนิดขึ้นหลังจากนั้นอีกหลายศตวรรษลิขิตเดดซี (Dead Sea Scrolls) อันที่จริงแล้ว เป็นเอกสารของศาสนายิว ไม่ใช่ผลงานทางศริสตศาสนาแต่อย่างใด ส่วนลิขิตค็อปติกแห่งเมืองนัก ฮัมมาดี (Nag Hammadi manuscript) นั้นก็เป็นผลงานที่เกิดขึ้นหลังจากยุคของพันธสัญญาใหม่ทั้ง 4 เล่มเนิ่นนานทีเดียว

3 ความคิดเห็น:

เวลา 8 กรกฎาคม 2552 เวลา 08:54 , Blogger Anupapna กล่าวว่า...

Wow!!!
ยาวมาก
อิอิ

by
50119532

 
เวลา 8 กรกฎาคม 2552 เวลา 20:20 , Blogger Aomaemza กล่าวว่า...

ฮิ๊วๆๆๆหาเจอและมาเม้นๆๆและนะค๊า

 
เวลา 10 กรกฎาคม 2552 เวลา 03:44 , Blogger JEAB กล่าวว่า...

50119495::เป็นเรื่องที่ น่าสนใจนะเนี่ย
เป็นความรู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน

 

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก